วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

เส้นเลือดแดงศึกความแค้นจากแรงเฉือน

ความแค้นจากแรงเฉือน

เมื่อใดก็ตามที่การหมุนเวียนของเลือดบกพร่อง ไม่ว่าในอวัยวะใด
นั่นหมายถึง เรากำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรืออาจหมายถึงชีวิต”

ถ้าเรามีเส้นเลือดแดงที่สะอาด สิ่งแรกที่เห็นได้จากภายนอก คือ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล ขาวใสแลดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ

“เส้นเลือดแดง” ส่วนสำคัญของร่างกายมีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจน น้ำตาลกลูโคส กรดอะมิโน ฮอร์โมน เอนไซม์ และสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อให้เซลล์ทำงาน เซลล์บางชนิด เช่น เซลล์สมอง สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่นาที หากขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงสมอง เซลล์หัวใจ และกล้ามเนื้อลายอาจอยู่ได้นานกว่าเซลล์สมองเล็กน้อย คือ นานเป็นชั่วโมง แต่ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง อวัยวะนั้น ๆ ก็จะต้องตายในที่สุด ซึ่งภายในร่างกายเรามีหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงผิวหนัง และอวัยวะอื่น ๆ ยิ่งถูกทำลายอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสารอาหารที่จัดเป็นผู้ร้ายหลักสองชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของหลอดเลือดแดง คือ ระดับของโฮโมซิลเทอีนและคอเลสเตอรอลที่สูงในเลือด และแน่นอนว่า มีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างเคร่งครัดออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช รวมทั้งเมล็ดถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลืองให้มากพอ


เมื่อร่างกายมีเส้นเลือดใหญ่ที่เป็นโรคอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย มีความเป็นไปได้สูงที่เส้นเลือดแดงในส่วนอื่น ๆ จะเป็นโรคด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดส่วนปลายด้วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดแผลที่บริเวณขา และก็เป็นเหตุผลที่เจ็บหน้าอก “แอนไจนา” (กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด) ถือว่า เป็นสองในสามของฆาตกรในโลก คือ โรคหัวใจและอัมพาต/อัมพฤกษ์สัมพันธ์โดยตรงกับการทำงานของหลอดเลือดแดง และยังมีโรคอื่น ๆ อีกมากที่อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาการไหลเวียนของเลือด

กุญแจสำคัญในการเพิ่มอายุขัยเฉลี่ยได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้หลอดเลือดมีสุขภาพดี คือ การควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ การตรวจวัดระดับความดันโลหิตเป็นสิ่งสำคัญ ความดันที่สูงไม่เพียงแต่อาจทำให้ “ท่อ” แตกได้ แต่ยังผลให้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า “ความแค้นจากแรงเฉือน” โดยโรคหลอดเลือดหัวใจ ความแค้นจากแรงเฉือนเป็นความดันที่เกิดกับผนังหลอดเลือดในจุดที่การไหลของเลือดมีความเชี่ยวสูงสุด

!!!ลองนึกภาพ!!! แม่น้ำเชี่ยวกราก ในจุดที่สายน้ำเชี่ยวที่สุด จะเป็นจุดที่ตลิ่งถูกกัดเซาะ                                            จนท้ายที่สุดอาจเกิดเป็นเวิ้งลึกและกว้างขึ้น เฉกเช่นที่แม่น้ำโคโลราโดกัดเซาะตลิ่ง จนเกิดเป็นแกรนด์แคนยอน

ซึ่งหากกระบวนการเดียวกันนี้ เกิดขึ้นในเส้นเลือดแดงภายในร่างกายในบริเวณที่ความดันเลือดสูง ได้มีการกัดกร่อนจนเกิดรอยปริขึ้นที่ผนังเส้นเลือด

สิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติภายในร่างกายมนุษย์ คือ ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลในการซ่อมแซมรอยปริที่ผนังเส้นเลือด คอเลสเตอรอลที่สะสมผนักและทำให้เส้นเลือดตีบลง ถูกร่างกายนำมาใช้เป็นปูนขาวพอกปิดแผล ดังนั้น หากคอเลสเตอรอลต่ำเกินไป ก็จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอัมพาตจากเส้นเลือดในสมองแตก แต่ก็เป็นประเด็นขัดแย้งกันเองทั้งในร่างกายและหลักความเป็นจริง คือ ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินไป และร่างกายใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยในการอุดรอยปริเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกจุด ไม่นานนัก ก็จะส่งผลให้ผนังเส้นเลือดหนาขึ้น แล้วก็จะเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน หรืออัมพาตจากเส้นเลือดสมองอุดตันจากคอเลสเตอรอล ดังนั้น การควบคุมความดันโลหิตจึงเป็นจุดร่วมที่สำคัญสำหรับโรคหลอดเลือดทุกชนิด โชคดีที่เรารู้ว่าจะควบคุมมันด้วยการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม รับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานเกลือโซเดียมต่ำ และรับประทานยาหากว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ได้ผล ความสำคัญของการลดการรับประทานเกลือ เห็นได้จากนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อนที่สั่งให้อาหารหลายประเภท เช่น ซอสถั่วเหลือง มิโสะ ลดปริมาณเกลือโซเดียมลง ซึ่งได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับความดันโลหิตของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก และเป็นหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้อัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองต่ำลง และอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

!!!ประเทศไทยก็ได้มีการการรณรงค์ลดเค็ม อย่างเช่น สมาคมโรคไตแห่งประเทศได้รณรงค์ลดเค็ม วันไตโลก หรือโครงการลดเค็มครึ่งหนึ่ง คนไทยห่างไกลโรค ซึ่งจะเห็นว่า เป็นการรณรงค์ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคการแพทย์เป็นสำคัญ แต่ยังไม่ได้มีคำสั่งเด็ดขาดจากรัฐบาลดังเช่นรัฐบาลญี่ปุ่นที่ประกาศเป็นนโยบาย ดังนั้น ผลที่ได้ย่อมแตกต่างกันเช่นนี้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น