วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

นาฬิกาชีวิตกับสุขภาพผิวพรรณขาวใส



ผิวพรรณ (ผิวหนัง) เป็นอวัยวะของร่างกายที่อยู่ภายนอกและครอบคลุมพื้นที่ของร่างกายมากที่สุด ในทางการแพทย์แผนจีนยังเชื่อว่า ถ้าคนเรามีปัญหาอวัยวะภายใน เช่น โรคปอด โรคตับ โรคไต โรคลำไส้ ฯลฯ อาจจะมีอาการแสดงทางผิวหนังได้ โดยสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเฉียบพลัน หรือเป็นปัญหาผิวหนังเรื้อรังที่รบกวนชีวิตประจำวันและสร้างความกังวลใจให้กับผู้ป่วยอยู่หลายปี เช่น ผื่นแดง ผื่นแพ้ สิว ผิวแห้ง การอักเสบของผิวหนังเรื้อรัง หรือแม้แต่โรคผิวหนังรุนแรงอื่น ๆ
โดยพื้นฐานแล้ว อวัยวะในร่างกายเราที่รับสัมผัสกับสารอาหารหลากหลายชนิดที่เราได้บริโภคเข้าไปในแต่ละวัน และขนาดของพื้นที่ลำไส้ ซึ่งใช้ในการดูดซึมสารอาหารนั้น ยังกว้างถึง 1 สนามเทนนิส ดังนั้น ระบบทางเดินอาหารกับสุขภาพ จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่งยวด
สำหรับการดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนั้นมีความต่างไปจากอดีตอย่างมาก ทั้งการดูแลตัวเอง การดูแลผิวหน้า ผิวพรรณ การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการรับประทานอาหารที่มีคุณค่า ซึ่งมักจะถูกละเลยหรือมองข้ามความสำคัญไป ในขณะที่วิถีการดำเนินชีวิตหรือพฤติกรรมหลายอย่างที่บั่นทอนสุขภาพกลับได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เช่น การดื่มสุราสูบบุหรี่ การใช้ยาปฏิชีวนะ และมลพิษ ทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผิวพรรณ สุขภาพกายตามมามากมาย และหลายครั้งที่การแพทย์สมัยใหม่ก็ไม่สามารถตอบโจทย์หรือแก้ไขได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ แนวคิดในเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จึงกลับมาได้รับความสำคัญ และมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น จะถูกย่อยโดยน้ำย่อยชนิดต่าง ๆ และถูกบดให้ละเอียดโดยการเคลื่อนไหวของลำไส้ หลังจากนั้น จะถูกเลือกว่า ชนิดไหนจะได้รับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น สุขภาพของทางเดินอาหารจะถูกกำหนดด้วยหลายปัจจัย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกันทางเดินอาหาร และฮอร์โมนซึ่งควบคุมทางเดินอาหาร ที่จำเป็นจะต้องมีความสมดุลเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารที่ดี
บทบาทของสุขภาพทางเดินอาหารที่ดีนั้น จะเสริมสร้าง ป้องกัน และรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อการเกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากการแพ้นมวัว ลดการเกิดอาการท้องเสีย ลดโอกาสของการเกิดโรคลำไส้อักเสบ IBS ลดการติดเชื้อราในช่องคลอด และผิวหนัง (Candidiasis) และยังมีรายงานว่า สามารถจะลดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด และลดอาการอักเสบทางผิวหนัง สิวก็จะดีขึ้นและยังเพิ่มความขาวใส สดใสของผิวพรรณอีกด้วย ดังนั้น ถ้าพบว่า ปัญหาผิวหนังควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และเพื่อทราบแนวทางการรักษาที่ควรปฏิบัติ ร่วมกับการดูแลสุขภาพผิวพรรณแบบองค์รวมที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดและรสจัดจนเกินไป ลดปริมาณแป้ง น้ำตาล รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ลดความเครียด หลีกเลี่ยงการได้รับรังสียูวีทั้งจากแสงแดด และแสงไฟ ซึ่งจะทำร้ายผิว ทำให้เกิด ฝ้า กระ และควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ระคายเคืองผิว
นอกจากนี้ การปฏิบัติตัวเลียนแบบนาฬิกาชีวิต (Biological clock) ก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของอวัยวะภายใน ทั้งยังเป็นการชะลอการเสื่อมและคงสุขภาพผิวพรรณที่ดีไว้ด้วย ซึ่งตามหลักนาฬิกาชีวิตกล่าวว่า ร่างกายมีการทำงานจำเพาะอวัยวะเด่นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งถ้าต้องการเน้นการดูแลสุขภาพผิวพรรณ ก็ควรใส่ใจกับการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับช่วงเวลาในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ได้แก่


นาฬิกาชีวิตกับสุขภาพผิวพรรณขาวใส

ช่วงเวลา 05.00-07.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การขับถ่ายของลำไส้ใหญ่
ช่วงเวลา 07.00-09.00 น. เป็นช่วงของเวลาของกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานอาหารมื้อเช้าในช่วงนี้ และควรรับประทานให้หลากหลายและครบ 5 หมู่
ช่วงเวลา 13.00-15.00 น. เป็นช่วงที่ลำไส้เล็กทำงานดูดซึมอาหารมื้อเที่ยง ช่วงเวลา 17.00-19.00 น. เป็นช่วงที่ไตทำงานขับของเสียและ


นาฬิกาชีวิตกับสุขภาพผิวพรรณขาวใส

ช่วงเวลา 01.00-03.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินออกมาเพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ และซ่อมแซมร่างกายส่วนที่มีการสึกหรอไประหว่างวัน
ดังนั้น การดำเนินชีวิตตามนาฬิกาชีวิตจึงสามารถช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  รวมถึงการมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อการมีสุขภาพร่างกายที่ดี และสุขภาพผิวพรรณให้ผิวขาวใส สดใสอีกด้วย
ในปัจจุบันยังมีการแนะนำให้รับประทานแบคทีเรียชนิดดี หรือที่เรียกว่า “probiotic” เพื่อเป็นการสร้างความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหารอันจะส่งผลต่อการทำงานโดยตรงของระบบภูมิคุ้มกันและระบบการสื่อประสาทในทางเดินอาหาร และยังมีรายงานถึงประโยชน์ของการลดการอักเสบของโรคผิวหนังทำให้สิวอักเสบดีขึ้น และผิวพรรณขาวใสขึ้นด้วย
การดูแลผิวพรรณกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่ต่างจากการสร้างความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียชั้นดีและยีสต์ในทางเดินอาหารการมีสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ จะช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของลำไส้ในการเลือกดูดซึมแต่สิ่งที่มีประโยชน์ และขับทิ้งของเสียผ่านเยื่อบุทางเดินอาหาร ส่งเสริมปฏิกิริยาภายในร่างกาย และกระบวนการการดีท็อกซ์กำจัดของเสียในร่างกาย ให้เกิดความสมดุลตามกฎหยินและหยาง
เมื่อเราดูแลสุขภาพของร่างกายดีแล้ว สิ่งที่ตามมา คือ สุขภาพผิวพรรณที่ดีโรคเรื้อรังหลายชนิดรวมถึงโรคผื่นแพ้ผิวหนังจะดีขึ้น ส่งผลต่อผิวพรรณที่ขาวใส เปล่งประกายมากขึ้น และยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพองค์รวมให้ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนตลอดไป

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น