วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

คุณมีแนวโน้ม “ขึ้นคาน” รึเปล่า

คุณมีแนวโน้ม “ขึ้นคาน” รึเปล่า

ถ้าบอกว่า “แก่” ก็ดูร้ายแรงแล้วสำหรับสาว ๆ แต่นอกจากเรื่องนี้ ยังมีสิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้น และเชื่อแน่ว่า ไม่ว่าสาวคนไหนเป็นต้องร้องกรี๊ดทุกราย ถ้าจะมากล่าวหากันว่า “ขึ้นคาน”  และคงเป็นเรื่องที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเจอ เพราะใคร ๆ ก็อยากมีความฝันที่จะแต่งงานมีผู้ชายดี ๆ สักคนมารักและดูแลกันตลอดชีวิตใช่มั๊ยล่ะ

แต่ว่า ตอนนี้...สาว ๆ ลองมาดูตัวเองก่อนดีกว่ามั๊ยว่า ผู้หญิงอย่างเรามีสิทธิ์เข้าข่ายที่จะขึ้นคานทองกับเขาบ้างหรือเปล่า ถ้าหันมาเช็คดูตัวเองสักนิด เผื่อคิดเปลี่ยนชีวิตทันนะจ๊ะ!!

อันดับแรกเลย “ไม่มีเสน่ห์เลยสักอย่าง” ถ้าไม่อยากขึ้นคานแล้วล่ะก็เกิดมาเป็นผู้หญิงต้องทำตัวให้มีเสน่ห์เข้าไว้ เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะไม่ชอบควงผู้หญิงที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องไปแต่งตัวโป๊ หรือโชว์นู้นแว๊บนั่น แต่นั่นหมายถึง เรื่องนิสัยใจคอ หรือความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เราควรดึงออกมาให้ผู้ชายเห็น เช่น เป็นคนสวย เป็นคนคุยเก่ง เป็นคนทำงานเก่ง เป็นคนตลก เป็นคนชอบเล่นกีฬา ชอบดูบอลแบบผู้ชาย ก็ดูทะมัดทะเมงดีไม่น้อย ฯลฯ ใครมีข้อไหนก็งัดของดีออกมาโชว์บ้าง เพื่อจะได้เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคตได้ อย่างน้อย ๆ ถ้าคุณไม่มีความสามารถอะไรเลยก็ควรพัฒนาบุคลิกภาพเรื่องความสวยงามอยู่เสมอ และถ้าเป็นคนสวยก็ยิ่งดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

อย่างที่สองรองลองมา “ก้าวร้าวขี้บ่นเอาแต่ใจ” ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นเรื่องจริงที่ว่า ผู้หญิงสมัยนี้จะเก่งทันสมัย และฉลาดรอบรู้ บางทีก็เก่งกว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำ ซึ่งผู้หญิงส่วนมากที่เป็นแบบนี้ก็มักจะคิดว่าตัวเองนั้นเลือกได้ ไม่ต้องแคร์ใคร ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องดีถ้าคุณมีสิ่งนี้อยู่ในตัว แต่จะดีมากกว่ามั้ยถ้าคุณนำความเก่งไปใช้ประโยชน์ โดยไม่เอาความรู้ความสามารถที่คุณมีไปข่มผู้ชาย เช่น ขี้บ่น จุกจิก เอาแต่ใจ แถมยังชอบชี้นิ้วบงการเขาให้ทำตามคำสั่งเราทุกอย่าง ควบคุมพฤติกรรมการไปการกลับของเขาทุกระเบียบนิ้ว ลองเช็คตัวเองสิว่า เราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เพราะถ้าตอบว่า ใช่ ก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะมาอยู่ใต้การปกครองของคุณตลอดเวลาหรอก ถึงแม้ว่า เพศชายจะเป็นเพศที่แข็งแรงก็เถอะ แต่ความจริงแล้วเขาก็อยากควงสาว ๆ ที่มีอารมณ์หวานบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ อาจไม่ต้องหวานค่ะ ขา มากมาย แต่แค่รู้จักให้เกียรติเขา รู้จักเอาใจบ้างก็พอ อย่างน้อย ๆ เวลาเขาพาไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะได้ภูมิใจไงล่ะ

อันดับต่อมา ก็คือ “หวังผลประโยชน์อย่างเดียว” แบบที่เรียกว่า ถ้าเธอไม่รวย ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ก็อย่ามาจีบกันให้เสียเวลาเลย! สาว ๆ ที่คิดแบบนี้ร้อยทั้งร้อยไม่ขึ้นคานก็แก่เกินที่จะได้แต่งงานค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเจอผู้ชายที่เขานิสัยดี เรื่องอื่นๆ  ก็น่าจะพัฒนาและเดินไปพร้อม ๆ กันได้ ต่างคนก็ช่วยกันทำมาหากินมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน มีน้อยใช้น้อย มีมากก็แบ่งไว้ให้รางวัลแก่เขาบ้าง การใช้ชีวิตคู่แบบนี้จะทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกันนะจ๊ะ
และถ้าคุณเป็นคน “ไม่กล้าแสดงออกทางความคิดเลย” ต่อให้คุณเป็นคนสวยเพอร์เฟคแค่ไหน แต่ถ้าจะเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ตลอดเวลาถามคำตอบคำ ถามว่า อยากกินอะไร ตอบได้แค่ว่า “อะไรก็ได้” แบบนี้เขาเรียกว่า “น่าเบื่อ” เพราะคุณไม่กล้าคิดไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยสักอย่าง เอาแต่ตามตาม และตาม ก็ดูออกจะน่ารำคาญไปนะ จริงอยู่ว่าคุณต้องให้เกียรติผู้ชาย ให้เขาเป็นผู้นำบ้าง แต่การเสนอความคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ เสนอไอเดียกิจกรรมแปลกใหม่บ้าง ก็จะทำให้คุณดูน่าสนใจ ทำให้ผู้ชายไม่เบื่อ และดูเป็นคนเฉลียวฉลาด แบบนี้สิค่อยน่าจะคบหาต่อ!

นอกจาก เช็คตัวเองแล้ว สาว ๆ ก็ไม่ควรลืมที่จะปรับเปลี่ยนบุคลิกและมุมมองเรื่องความรักให้ดูดีขึ้นด้วย อาจมีคติ หรือยึดมั่นในความเชื่อบางอย่าง เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนความรัก เช่น “ความรัก คือ การเสียสละ” “ความรัก คือ การให้” “ความรัก คือการที่เราได้ทำอะไรสนุก ๆ ด้วยกัน” ฯลฯ


จากนั้น คุณสาว ๆ ก็จำให้ขึ้นใจ และปฏิบัติตามให้ได้ ถ้าปรับปรุงทั้งบุคลิกทางกาย และทางใจพร้อมกันแล้ว ก็ไม่วายที่จะมีหนุ่ม ๆ มารุมล้อมดอมดมคุณอย่างแน่นอนค่ะ

ภาพจากอินเตอร์เน็ต

กินอย่างชาญฉลาด ช่วยชะลอวัยก็ได้ ต้านความแก่ก็ดี

กินอย่างชาญฉลาด ช่วยชะลอวัยก็ได้ ต้านความแก่ก็ดี

เคยมีงานวิจัยออกมาบอกว่า ในยุคปัจจุบัน ค่าเฉลี่ยอายุชายไทยอยู่ที่ 68 ปี ในขณะที่ผู้หญิงเรามีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 72 ปี และมีแนวโน้มว่า คนไทยจะมีอายุยืนถึง 120 ปีกันเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ได้การันตีว่า จะอายุยืนถึง 120 ปีกันเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ได้การันตรีว่า จะอายุยืนถึงขนาดนั้นทุกคนหรอกนะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่มาจากการดูแลเอาใจใส่ตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่า การดูแลตัวเอง นอกจากเรื่องออกกำลังกายแล้ว เรื่องอาหารการกินก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยค่ะ

จุดสำคัญของการรับประทานให้ถูกสุขลักษณะ คือ รับประทานอาหารในปริมาณที่ไม่มาก และไม่น้อยเกินไป โดยคนปกตินั้น ควรบริโภคอาหารในปริมาณ 1,400-1,500 แคลอรี่ต่อ 1 วัน และหากเป็นไปได้ในอาหารแต่ละจาน จะต้องมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ นอกจากนี้แล้ว การรับประทานอาหารไฟเบอร์เป็นประจำก็สามารถช่วยยืดอายุของเราไปได้อีกนานเช่นกัน

ในวันนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องราวการรับประทานไฟเบอร์ที่แสนมีประโยชน์ และช่วยให้คุณมีอายุที่ยืนยาวกันนะค่ะ

“ไฟเบอร์” เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์หลักในเรื่องระบบเผาผลาญ จึงมักนิยมถูกนำมาใช้ในกระบวนการลดน้ำหนักกันอย่างแพร่หลาย แต่นอกจากไฟเบอร์จะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว มันยังเป็นสารอาหารที่ถูกนำมาเป็นส่วนผสมหลักของการผลิตยาอายุวัฒนะอีกด้วย เนื่องจาก มีผลการวิจัยว่า การรับประทานไฟเบอร์เป็นประจำนั้น จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้อีก เพียงแต่ในปัจจุบันหนุ่มสาวบ้านเรามักทานอาหารกันแบบไม่ถูกสุขลักษณะกันเยอะ ทำให้ได้รับไฟเบอร์ในร่างกายไม่เพียงพอ เกิดโรคภัยและเจ็บป่วยกันมากขึ้น

ปริมาณไฟเบอร์ที่หนุ่ม ๆ ควรได้รับในแต่ละวันนั้นอยู่ที่ 35-40 กรัม ในขณะที่สาว ๆ ควรรับแค่ 25 กรัมเท่านั้น ก็จะช่วยให้เราสุขภาพดีมีหุ่นเพรียวบางไปด้วย คำถามต่อไปที่หลายคนชอบถามกันคือ แล้วอาหารประเภทไหนบ้างที่มีไฟเบอร์? หากลองสักเกตให้ดีเราจะพบเลยว่า มีอาหารอยู่หลากหลายชนิดมากมายที่มีไฟเบอร์นี่ประกอบอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมด สามารถจำแนกออกมาได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
  1. ผลไม้ ได้แก่ แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะละกอ ส้ม แคนตาลูป ฝรั่ง มะม่วง กีวี กล้วย รวมทั้งเบอรี่บางชนิด เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่
  2. ผัก ได้แก่ คะน้า บร็อกโคลี่ แครอท ผิวมะเขือเทศ ผิวมันฝรั่ง ผักโขม และข้าวโพด
  3. ธัญพืช ได้แก่ ข้าวโอ๊ต คอร์นเฟล็ก ขนมปังโฮลวีท ขนมปังขาว ข้าวกล้อง
  4. ถั่ว ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วพู อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เฮเซลนัต พิสตาชิโอ


อาหารที่กล่าวมานี้ หลายอย่างคุณสาว ๆ สามารถนำมารับประทานเปล่า ๆ ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลามาปรุงอาหาร อาจจะแอบเก็บใส่กระเป๋าพกไว้ทานเล่นเวลาหิว ก็เป็นของว่างระหว่างมื้อได้ดี เพราะไม่ทำให้อ้วน

นวพร เอี่ยมธีระกุล

สุขภาพดี เริ่มจากความ “คิด”

สุขภาพดี เริ่มจากความ “คิด”

สุขภาพของคนเรานั้น นับเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ แต่คุณสาว ๆ เคยสังเกตบ้างมั๊ยค่ะ ว่าคนที่คิดบวก ร่าเริง ยิ้มแย้ม และดูมีความสุข ส่วนมาก หรือเรียกได้ว่า แทบจะทุกคนด้วยซ้ำ มักจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงกว่าคนทำงานหนัก เครียด พูดไม่เพราะ และอารมณ์เสียบ่อย ๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การมีความสุข หรือการคิดบวกนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว!
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนต้องเจอกับอุปสรรค ความเครียด ปัญหามรสุมต่าง ๆ เข้ามาในชีวิต แต่เราทุกคนก็สามารถก้าวผ่านมรสุมนั้นไปได้แน่นอน อาจมีเจ็บบ้าง หกล้มบ้างก็ถือเสียว่า เป็นบทเรียน เมื่อได้บทเรียนแล้วก็อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ค่า ให้รีบหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ เริ่มต้นจากความคิดของตัวเองเป็นอันดับแรก โดยพยายามคิดบวก ขจัดความเครียด ทำจิตใจก็จะผ่องใส หมั่นหัวเราะเข้าไว้ เมื่อจิตใจเราทำได้ร่างกายที่แข็งแรงก็จะตามมาเองค่ะ

หากมีเวลาว่างอย่างวันหยุดพักผ่อน เสาร์อาทิตย์ก็อาจหากิจกรรมที่ชอบมาทำเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ไม่ปล่อยให้เวลาว่างแล้วต้องมานั่งคิดเองที่กำลังไม่สบายใจ และฝึกฝนให้ตัวเองไม่ได้เป็นคนไร้ค่านอนจมเวลาไปวัน ๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่แนวทางของคนที่จะมีความสุขทั้งจิตใจและร่างกายแน่นอน นอกจากนี้ การได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่นก็เหมือนเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ร่างกายได้เผาผลาญ และใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลา ผลพวงที่ดีก็คือ ได้หุ่นที่เพรียวบางเพราะเราได้เบิร์นไขมันส่วนเกินไปในตัว

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องหายห่วงก็คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพ เพราะเมื่อเรามีสุขใจสุขภาพกายที่ดีแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าค่ารักษาพยาบาลในการเจ็บป่วยต่าง ๆ จะต้องมีมากมีน้อยแค่ไหน แต่มีข้อแม้ว่า ต้องดูแลสุขภาพจิตใจ และหมั่นออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอแบบนี้ตลอดไป เชื่อเลยว่า ไม่มีทางเสียเวลาเครียดกับเรื่องเหล่านี้หรอก แถมยังมีเงินเหลือเก็บ สามารถเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มากมาย เช่น ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง เสริมสวย ซื้อครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางได้อีกเยอะ


ดังนั้น สาว ๆ ทั้งหลายต้องทำจิตใจให้สดใสร่าเริงอยู่เสมอ และจำไว้ว่า เรา “ไม่เครียด ไม่เจ็บ ไม่จน” นะค่ะ คราวนี้ นอกจากเราจะมีสุขภาพจิตที่ดีแล้ว ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นของแถมอีกต่างหาก แบบนี้นี้เองที่เขาเรียกว่า “ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว” 

นวพร เอี่ยมธีระกุล

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฟื้นฟูผิวหลังปาร์ตี้อันสุดเหวี่ยง

ฟื้นฟูผิวหลังปาร์ตี้อันสุดเหวี่ยง

สาว ๆ เคยเป็นกันบ้างหรือเปล่าค่ะ หลังจากจบงานปาร์ตี้มาเมื่อไหร่ หน้าจะโทรม ผิวจะคล้ำ ตาจะดำเป็นหมีแพนด้า โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอาบน้ำไม่ชอบล้างหน้าก่อนนอน ทั้ง ๆ ที่แต่งหน้าจัดเต็มมาทั้งคืน ปัญหานี้ คือ ตัวการหลักทำร้ายผิวขาวสวย ๆ ของคุณ และนอกจากนี้ สาว ๆ นักดื่มทั้งหลายรู้หรือไม่ว่าแอลกอฮอล์เป็นส่งที่ทำลายผิวคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะออกไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงแค่ไหน กลับมาถึงบ้านแล้วต้องปรนนิบัติพัดวีผิวของตัวเองด้วย เพราะถ้าขืนยังเอาแต่ปาร์ตี้โดยไม่ดูแลผิวเลย งานต่อไปมีหวังได้เอาหน้าโทรม ๆ ไปอวดเพื่อนแน่นอน

อัพหน้าโทรมให้สวยสวยเหมือนเดิม


เติมน้ำให้ผิว


ใครที่ดื่มแอลกอฮอล์ในงานปาร์ตี้มาหนัก ก็ควรดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ ๆ เพื่อชดเฉยน้ำที่สูญเสียไป และช่วยให้ร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาได้เร็วมากขึ้น เพราะว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์นั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนของเลือดและในกล้ามเนื้อ พวกสารแปลกปลอมที่เราบริโภคเข้าไปมักมีความเข้มข้นมากกว่าเลือดของเรา น้ำที่อยู่ในชั้นผิวหนัง และกล้ามเนื้อ จึงต้องออสโมซิสเข้าไปในเลือด เพื่อที่จะทำให้เลือดมีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถคงความเป็นปกติของระบบการไหลเวียนของระบบโลหิตไว้ได้ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผิวของเรามักแห้งกร้านเหมือนขาดน้ำหลังจาก การดื่ม  แอลกฮอลล์ โดยเฉพาะในบริเวณผิวหน้า นอกจากนี้ การดื่มน้ำผลไม้ หรือรับประทานวิตามินเสริม ก็สามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากปาร์ตี้ได้ดีเช่นกัน เพราะวิตามินในผลไม้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย คนที่เน้นมากกว่ารับประทานอาหาร จึงอาจมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำเกิดร่วมขึ้นได้ จึงต้องดื่มน้ำหวาน หรือน้ำผสมผงเกลือแร่เพิ่มด้วย


แก้ไขรอยจ้ำแดง

บางคนไม่รู้ตัวว่า ทำไมผิวอยู่ดี ๆ ก็เป็นรอยแดงเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะสาเหตุจากการที่แอลกอฮอล์ในร่างกายไปขัดขวางทางเดินของเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดหดตัวจนเลือดไหลเวียนไม่สะดวก หรือเกิดจากปัญหาอื่น ๆ เช่น แพ้แอลกอฮอล์ แพ้แมลงกลางคืน แพ้ควันบุหรี่ เป็นต้น วิธีการแก้ไขสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการพอกหน้าด้วยมาส์คที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อช่วยลดการบวมแดง หรือใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นบำรุงผิวชนิดเข้มข้น รับรองว่า เช้ามาหน้าสาว ๆ จะเนียนขาวใส รอยจ้ำแดงหายไปชัวร์


ให้อาหารดวงตา (หมีแพนด้า)

ถ้านอนตื่นขึ้นมา ถ้านอนตื่นขึ้นมาแล้ว ต้องพบกับปัญหาที่ทำให้สาว ๆ ไม่สวย นั่นก็คือ ตาบวมหรือใต้ตาคล้ำ ซึ่งคงเป็นเรื่องโชคร้ายแน่ ๆ สาเหตุอันเนื่องมาจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะอยู่แล้ว ทำให้น้ำที่อยู่ในร่างกายเหลือน้อยลงขึ้นไปอีก ทำให้โลหิตคั่งตรงใต้ตา ไม่กระจายไปที่อื่น พอนานเข้าจะทำให้ใต้ตาเป็นสีเข้ม และยิ่งผิวบริเวณใต้ตาบอบบางมากทำให้มองเห็นเป็นสีดำเข้มกว่าส่วนอื่น วิธีแก้ไขปัญหานี้ คือ หาถุงชากลิ่นหอม ๆ ที่ทิ้งไว้จนอุ่นแล้วมาวางลงบนเปลือกตาเพื่อช่วยลดอาการบวม หรือจะใช้วิธีง่าย ๆ อย่างแตงกวาแช่เย็นฝานบางๆ วางทับบนเปลือกตาก็ได้ แค่นี้ดวงตาก็จะสดใสผิวที่บอบบางรอบดวงตาจะกักเก็บน้ำไว้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีสารอาหารจากธรรมชาติที่จำเป็นต่อผิว เพื่อช่วยสร้างไขมันรอบดวงตา และช่วยลดอาการตาบวม แล้วหนุนศีรษะให้สูง


อย่าล้มตัวนอน ก่อนทำความสะอาด


อย่างไรก็ดี ในคืนนั้นมีการแต่งหน้าแบบจัดเต็มเป็นเวลานาน แถมยังต้องผจญภัยกับเหงื่อ ฝุ่น และควันบุหรี่มาทั้งคืน จึงแนะนำว่า ถึงจะเหนื่อยหรือดึกแค่ไหน ถ้าคุณไม่อยากให้สิวมาโผล่อยู่บนหน้าแล้วล่ะก็ ก็อย่าเพิ่งขี้เกียจล้มตัวนอนโดยที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดผิว เมื่อกลับถึงบ้านคุณควรรีบล้างหน้าให้สะอาด ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวพร้อม ๆ กับขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก ตามด้วยการทาครีมมอยเจอร์ไรเซอร์เริ่ด ๆ ที่ช่วยซ่อมแซมผิว สร้างคอลลาเจน และอีลาสตินเพื่อให้ผิวกระชับ เต่งตึง เปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล ไม่แห้งร่อนเป็นขุย ที่สำคัญในวันต่อมาควรลดการแต่งหน้าที่หนาจนเกินจำเป็น เพื่อให้ผิวหน้าได้พักผ่อน

นอกจาก นี้ การมีผมที่สกปรกก็เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน เพราะนอกจากผมจะสัมผัสฝุ่นละออง ควันบุหรี่ และสิ่งสกปรกอื่น ๆ มาทั้งวันแล้ว ผลิตภัณฑ์แต่งผมก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย โดยเฉพาะคนที่นอนดิ้น เวลานอนผมจะสัมผัสกับหน้าโดยตรง เส้นผมที่เคลือบไปด้วยแวกซ์ใส่ผม และฝุ่นละอองคงโดนผิวหน้าไปเต็ม ๆ และอย่าเพิ่งไว้ใจไปหากใครไม่ทำความสะอาดผมแล้วนอน แถมบอกว่า ไม่เกิดสิว เพราะขอบอกว่า ในกรณีนี้สิวจะไม่เกิดขึ้นในทันทีทันใด แต่มักจะเกิดหลังจากวันเกิดเหตุไปแล้ว ประมาณ 5-10 วัน

ดื่มแล้วให้รีบดื่ม

ด้วยในงานปาร์ตี้ที่มากไปด้วยอาหารที่ล่อตาล่อใจ หลายคนคงทนไม่ไหว ถ้าเห็นเพื่อน ๆ ได้กินแล้วเราไม่ได้กินด้วย และเมื่อกินเราอาหารในมื้อดึกบวกกับการมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแล้วล่ะก็ จะเป็นตัวการที่เพิ่มหน้าท้องให้แก่คุณสาว ๆ ได้ดีนักแล ถ้าตอนนี้รอบเอวคุณดูมีเป็นห่วงยางน้อย ๆ ขึ้น ตอนเช้าก็ให้รีบแก้ไขโดยผสมน้ำกับโยเกิร์ตและมะนาวเข้าด้วยกัน แล้วดื่มทันทีที่ตื่นนอน เพราะสามอย่างนี้เมื่อนำมาผสมกันแล้วจะช่วยในการระบายได้ดี หน้าท้องคุณจะเบนราบขึ้น แถมวิธีนี้ยังเป็นการดีท๊อกซ์ร่างกายภายในได้อีกด้วย หรือหากใครที่ชอบดื่มกาแฟในตอนเช้าก็ควรหาผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ปราศจากผลข้างเคียงดื่มก็ได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายในท่าบริหารหน้าท้อง ก็จะเป็นการช่วยให้หน้าท้องคุณแบนราบได้เร็วขึ้น

พึ่งเทคโนโลยี

หลังจากที่คุณสาว ๆ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการแดนซ์การยืนมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น สาว ๆ ที่ใส่ส้นสูงคงต้องบ่นว่า เมื่อยเท้าแน่นอน ดังนั้น การไปนวดผ่อนคลาย หรือสปา ก็เป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ และหากรู้สึกว่า ไม่สบายผิว อาจปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อพึ่งเทคโนโลยีในการกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังกลับมาแข็งแรงหรือทำทรีทเม้นต์ก็จะเป็นการช่วยให้ผิวคุณได้พักผ่อนแถมยังดูดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย


คุณสาว ๆ เห็นมั๊ยค่ะว่า แม้จะปาร์ตี้หนักแค่ไหน คุณสาว ๆ ก็มีวิธีกลับมาสวยใสมั่นใจได้ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพนั้นต้องดูแลทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และถูกหลักโภชนาการ เพื่อชะลอความเสื่อมของร่างกาย แต่สิ่งที่สำคัญหากหลีกเลี่ยงการนอนดึก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ให้ได้ ร่างกายคุณก็จะฟิตแอนเฟิร์มไปได้อีกนานค่ะ

นวพร เอี่ยมธีระกุล
Email : yanincosmetic@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

องศาเดือด...ประเทศไทย...ร้อนมาก...

องศาเดือด...ประเทศไทย...ร้อนมาก...


ฤดูร้อนปีนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่เสียงบ่นว่าร้อนๆๆๆๆ หลายคนรู้สึกว่า ประเทศไทยปีนี้อากาศร้อนขึ้นมากกว่าปกติ แม้แต่ในกรุงเทพมหานครเองก็ตาม หลายคนเริ่มหันมาเล่นน้ำสงกรานต์ยามค่ำคืนโดยให้เหตุผลว่า ทนแสงแดดจ้าในตอนกลางวันไม่ไหว ขนาดอยู่ในบ้านหรือตัวอาคารต่อให้ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลงจนเกือบจะถึงจุดเยือกแข็งแล้วก็ยังได้แค่บรรเทาให้อากาศภายในห้องลดลงเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเย็นเลย แต่ถ้าบ้านไหนไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ ครั้งนี้คงเข้าถึงคำพูดที่ว่า ร้อนตับแลบได้อย่างลึกซึ้ง ระหว่างวันที่นอนตากอากาศอบอ้าวราวกับอยู่ในตู้อบนั้น เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเรารับรู้ถึงความรู้สึก “ร้อน” เรารู้สึกได้อย่างไร?

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่นซึ่งร่างกายมีความสามารถในการรักษาระดับอุณหภูมิในคงที่อยู่เสมอ คือ 36.5-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิของร่างกายมนุษย์จะเป็นอิสระกับอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมและไม่ผกผันตามสภาพอากาศภายนอกเหมือนเช่นสัตว์เลือดเย็นอื่น ๆ ดังนั้น แล้ว ไม่ว่าอุณหภูมิภายนอกจะผกผันเพียงใด ร่างกายของเราจะยังคงรักษาอุณหภูมิไว้ทีเดิมและปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น เมื่ออากาศภายนอกสูงขึ้น หรือต่ำลง จึงทำให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกร้อนและหนาวนั่นเอง

อากาศร้อน ทำให้คนเสียชีวิตได้จริงหรือ??


โดยทั่วไปแล้วอากาศร้อนอาจไม่ได้มีผลโดยตรงกับการเสียชีวิต แต่อาจเป็นเหตุให้เกิดความผิดปกติบางอย่างเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำ เพราะเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นร่างกายจะมีกลไกอัตโนมัติสั่งการให้มีการระบายความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อ  ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและยังมีไอเหงื่อที่ระเหยออกมาทางต่อมผิวหนังซึ่งเราไม่สามารถมองเห็น การระบายออกของเหงื่อทั้งสองชนิดนี้จะมีปริมาณมากกว่าปกติ เมื่ออากาศร้อน และการระบายออกในปริมาณที่มากขึ้นนั้นเป็นตัวการทำให้ระดับความเข้มข้นในเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นเกินไป จะสังเกตได้จากการที่เรามักจะอยากดื่มน้ำมาก ๆ ในเวลาที่อากาศร้อน นั่นเป็นเพราะร่างกายต้องปรับสภาพสู่สภาวะสมดุลซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติ แต่หากร่างกายมีสภาวะเครียดจะไปกระตุ้นหัวใจให้บีบตัวแรงขึ้นและกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติบางอย่างในร่างกาย ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวทัน จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไปเพียงพอ ในคนปกติหากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ทันก็สามารถเป็นลมได้เช่นเดียวกัน การเป็นลมไม่ได้ทำให้เราเสียชีวิตได้โดยตรง แต่หากเราเป็นลมแล้วล้มศีรษะกระแทกพื้น หรือเป็นลมระหว่างที่อยู่ในน้ำก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดในผู้สูงอายุ

วิธีดับกระหายคลายร้อน


อากาศร้อน ๆ มีหลายวิธีดังร้อนไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ เพราะเครื่องปรับอากาศนั้นช่วยปรับสภาพอากาศให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของเรามากที่สุด จึงทำให้เรารู้สึกสบายตัว แต่การอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวันทั้งคืนก็ทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้นได้เช่นกัน การอาบน้ำเย็นเป็นการนำความเย็นเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย “แตงโม” ผลไม้ยอดฮิต แตงโมเป็นผลไม้ที่ช่วยรักษาความเย็นในร่างกาย ถ้าแช่เย็นได้ดียิ่งดี เพราะจะทำให้รู้สึกสดชื่น การพัดหรือเป่าพัดลม เป็นการเป่าเหงื่อบนผิวหนังให้ระเหยออกไปเร็วขึ้น ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ดังนั้น จึงควรคู่ไปกับการดื่มน้ำเย็น ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากเหงื่อ นอกจากนี้ การดื่มน้ำเย็นยังช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น แต่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดหรืออ่อนเพลียจากอาการลมแดด ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัดในทันที เพราะจะทำให้เกิดอาการตะคริวท้อง ซึ่งเป็นอันตรายมากค่ะ


ทำความรู้จักกับประเภทของครีมกันแดด

  1. Chemical Sunscreen : มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดเป็นระยะเวลาหนึ่งก็จะเสื่อมสมรรถภาพลง และนี่คือเหตุผลที่ครีมกันแดดบางยี่ห้อระบุวิธีใช้ให้เราต้องทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง
  2. Physical Sunscreen : มีส่วนประกอบหลักเป็นสารทึบแสง จึงทำให้แสงไม่สามารถส่งผ่านไปได้ แต่จะถูกสะท้อนออกมา ซึ่งข้อเสียของครีมกันแดดชนิดนี้ ก็คือ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทาขาววอกจนเกินไป และในบางครั้งก็ก่อให้เกิดคราบขาวเวลาเหงื่อออกอีกด้วย
  3. Tanning Sunscreen : เป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวคล้ำขึ้น โดยส่วนใหญ่นิยมใช้ในผู้ที่มีผิวขาวที่ต้องการมีผิวสีน้ำตาลแทนอย่างปลอดภัย

กลเม็ดเด็ดวิธีการเลือกใช้ครีมกันแดด

  1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น.
  2. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB
  3. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ในชีวิตประจำวัน และ SPF 30++ ในวันที่ต้องประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง
  4. เลือกครีมกันแดดชนิดกันน้ำสำหรับกิจกรรมบางชนิด เช่น ว่ายน้ำ พายเรือ โปโลน้ำ โดยสังเกตจากบรรจุภัณฑ์ซึ่งจะมีคำว่า Waterproof ระบุไว้
  5. ฉีดหรือพ่นผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทสเปรย์ซ้ำทุก 30 นาที เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทนี้นั้น สามารถล้างออกได้ง่ายดายด้วยน้ำ และมีประสิทธิภาพความคงทนบนผิวหนังน้อยกว่าชนิดครีมและโลชั่น
  6. ทาครีมกันแดดในปริมาณที่หนาเพียงพอที่จะปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต และอย่าลืมทาในบริเวณที่ถูกแสงแดดเผาได้ง่าย เช่น จมูกและท้ายทอย
  7. ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 20-30 นาที ก่อนออกแดด และควรทาซ้ำทุก ๆ 90 นาทีหรือ 2 ชั่วโมง เมื่อต้องการประกอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง
  8. อ่านฉลากที่ติดอยู่กับบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด ถึงวิธีการใช้และส่วนประกอบของครีมกันแดดนั้น ๆ
  9. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีสารป้องกัน UVA ได้ดีอย่างน้อย 2 ชนิด ได้แก่ XL Tinosorb M, S Oxybenzone Parsol 1789 TiO2, ZnO Mexoryl SX เป็นต้น


นวพร เอี่ยมธีระกุล
สอบถามครีมกันแดดเพิ่มเติม 0816518088
Email : yanincosmetic@hotmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

รับมืออย่างไรเมื่อหน้าร้อน...มาเยือน

รับมืออย่างไรเมื่อหน้าร้อน...มาเยือน

ในปีนี้ มีการคาดการณ์กันว่า สภาพอากาศจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทำให้ประชาชนต้องระวังโรคสุขภาพมากขึ้น หลายคนมักมีอาการไม่สบายบ่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นโรคทางเดินอาหาร โรคที่ประชาชนกังวล คือ โรคลมแดด หรือฮีตสโตรก เพื่อไม่ให้หน้าร้อนมาบั่นทอนสุขภาพกาย และลามไปสู่สภาพจิตใจ จึงมีวิธีดูแลสุขภาพรับมือหน้าร้อนมาฝาก เพื่อความปลอดภัยห่างไกลการเจ็บป่วย

ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เนื่องจาก หน้าร้อนจะสูญเสียเหงื่อมาก ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน เพราะจะยิ่งทำให้กระหายน้ำมากขึ้น อาจดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพรที่มีรสไม่หวานจัดแทน

หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจาก จะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น อาจทำให้เกิดการขาดน้ำ นอกจากนี้ ในหน้าร้อนแอลกอฮอล์จะซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้เร็ว ทำให้เมาง่าย และอาจช็อกหมดสติได้

สำหรับอาหารที่เหมาะในหน้าร้อน คือ อาหารรสขมเย็น เช่น แฟง มะระ สะเดา ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นอกจากนี้ ควรเลือกทานอาหารที่สะอาด สด ใหม่ เพื่อป้องกันการเกิดโรคทางเดินอาหารในหน้าร้อน และที่สำคัญ อย่าออกกำลังกายหักโหม หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือแดดเปรี้ยง จะทำให้เจ็บป่วยง่ายขึ้น การออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 วัน ประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค

สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายความร้อนได้ง่าย และดูแลความสะอาดของร่ายกายไม่ให้เกิดการอับชื้น หากเกิดผดผื่นคันควรปรึกษาแพทย์

ทุกครั้งเมื่อออกกลางแจ้ง หรือในที่แดดแรง ๆ ควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด เพื่อป้องกันการเกิดผิวไหม้จากการได้รับแสงแดดมากเกินไป และควรสวมแว่นกันแดดเพื่อปกป้องสายตา



เมื่อดูแลสุขภาพกายกันแล้ว เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพใจกันด้วย ไม่หงุดหงิดไปกับสภาพอากาศ และอย่ายอมให้ความร้อนมาบั่นทอนสุขภาพเราได้ 

นวพร เอี่ยมธีระกุล 
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต 
Email : yanincosmetic@hotmail.com

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเลือกแว่นกันแดด

การเลือกแว่นกันแดด


ในช่วงหน้าร้อนแดดเปรี้ยง ๆ แบบนี้ สองสิ่งที่ไม่ควรขาดมือ คือ ครีมกันแดด และแว่นตากันแดด เพราะนอกจากจะป้องกันเลนส์ตาไม่ให้กระทบกระเทือนจากแสงแดดอันแผดเผาแล้ว ยังช่วยชะลอรอยตีนกาที่เกิดขึ้นจากการหยีตาสู้แสงแดดทางอ้อมอีกด้วย

สำหรับวิธีการเลือกแว่นตากันแดดนั้น “เลนส์ยิ่งดำยิ่งดี” เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะมันอาจจะทำร้ายดวงตาคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะการสวมแว่นกันแดดที่สีเข้มมาก ๆ นั้น จะหลอกรูม่านตาของเราให้คิดว่า แสงผ่านรูม่านตาไม่พอ ทำให้รูม่านตาขยายตัวโดยอัตโนมัติเพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น ทำให้รังสียูวีส่งผ่านรูม่านตาได้มากขึ้น อาจจะทำให้เกิดต้อหรือมะเร็งในดวงตาได้ ดังนั้น วิธีการเลือกเลนส์สายตามที่สำคัญอันดับหนึ่ง คือ ควรเลือกเลนส์ที่มีการเคลือบป้องกันรังสียูวี หรือเลนส์ที่มีการเคลือบป้องกันรังสียูวี หรือเลนส์โพลาไรซ์ที่ผลิตมาเพื่อตัดแสงยูวีโดยเฉพาะ ส่วนสีของเลนส์และความเข้มนั้น สามารถดูได้ตามความชอบและความเหมาะสม เพียงแค่ให้แน่ใจว่าเลนส์นั้นผลิตมาเพื่อป้องกันแสงยูวี


ดังนั้น การลงทุนกับไอเท็มอย่างแว่นตากันแดดดี ๆ สำหรับหน้าร้อนนี้ นอกจากจะทำให้คุณดูเก๋ ชิค และคูลแล้ว ยังถนอมสุขภาพตาที่มีเพียงคู่เดียวของคุณอีกด้วยค่ะ และอย่าลืมโปะด้วยครีมกันแดด พร้อมหมวกปีกกว้าง หรือร่มด้วยนะค่ะ

นวพร เอี่ยมธีระกุล
สอบถามเพิ่มเติม 0816518088
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

Email : yanincosmetic@hotmail.com

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

เคล็ดลับวิธีดูแลสุขภาพหน้าร้อน

เคล็ดลับวิธีดูแลสุขภาพหน้าร้อน

ข้อพึงระวังในช่วงหน้าร้อน คือ ไม่ควรทานน้ำแข็ง หรือดื่มน้ำเย็นจัด ซึ่งในฤดูร้อน อากาศร้อน ต้องหาทางช่วยดับความร้อน เพื่อป้องกันความร้อนกระทบร่างกายมากเกินไป เป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่วิธีการให้ความเย็นแทนที่ที่มีความเย็น ฯลฯ นับว่า ไม่เหมาะสม และเครื่องดื่มที่เหมาะสมในหน้าร้อน ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะหน้าร้อนจะสูญเสียเหงื่อมาก ควรดื่มน้ำเปล่าที่ต้มสุกแล้ว หรือจะเสริมปรุงแต่งด้วยน้ำตาล เกลือแร่ หรือสมุนไพรอื่นๆ  ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ


อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรนอนให้ลมหรือความเย็นโกรกตรงร่างกายพอดี เพราะความร้อนจากแดดทำให้เสียเหงื่อ เสียพลัง เมื่อนอนหลับตากลมในขณะเหงื่อออก จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ถ้าอุณหภูมิภายนอกยังสูงอยู่ แล้วเหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จะมีความร้อนสะสมอยู่ข้างใน ทำให้เวียนหัว รู้สึกหนักหัว ไม่สดชื่นแจ่มใส อาจทำให้เป็นหวัดได้ และควรนอนหลับให้เพียงพอ

สำหรับอากาศร้อน ๆ อย่างนี้ เราไม่ควรงดอาหารเช้า เพราะร่างกายต้องการสารอาหาร เพื่อกระตุ้น ระบบเผาพลาญ ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำหนักด้วย แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวก แป้งขัดขาว หรือของทอด ของมัน หากควบคุมอาหารแล้วยังรู้สึก ท้องอืด และอึดอัด อยู่เม็กซ์ ทอมลินสัน นักโภชนาการ แนะนำให้ดื่มน้ำชา เปปเปอร์มินต์ ช่วยขับลม จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น และควรดูแลสุขภาพของเด็กเล็กในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะเรื่องเสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และทางเดิน

สำหรับ สตรีมีครรภ์กับการปฏิบัติตัวในหน้าร้อนนั้น ควรสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เพื่อเป็นการป้องกันการกระทบกับความเย็นโดยตรง และควรทานอาหารที่สะอาด ไม่ควรนอนบนเสื่อที่เย็น และควรห่มผ้าคลุมกายเสมอ ข้อพึงระวังสำหรับสตรีมีครรภ์คือ อย่าให้เป็นหวัด ห้ามอาบน้ำร้อนจัด หรือเย็นจัดจนเกินไป

โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องระวังให้มากในช่วงอากาศร้อน คือ คนสูงอายุ คนที่มีระบบย่อยที่ไม่ดี และคนที่มีม้ามบกพร่อง ผู้ที่มีลักษณะสามอย่างที่กล่าวมานั้น เมื่อได้รับความร้อนจากแสงแดด ถ้าดื่มน้ำเย็นมากเกินไป และเกิดความชื้นสะสมในร่างกาย อาการที่แสดงออก คือ ท้องเสีย ติดเชื้อราง่าย ขี้หนาว ปวดหัว ตัวร้อน เป็นต้น

ในการทาครีมกันแดด อย่าทาครีมกันแดดอย่างเร่งรีบ แพทย์ผิวหนัง แนะนำให้ทาให้ทั่วถึงแม้แต่ในร่วมผ้าด้วย โดยทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และหลังว่ายน้ำ แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นสูตรกันน้ำก็ตาม โดยควรเลือกที่มีส่วนผสมที่สามารถป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบีได้ดี (ดูตารางแนบ)

ตารางแสดงความสามารถในการป้องกันรังสี UV ของสารกันแดดชนิดต่าง ๆ

อากาศร้อนอย่างนี้ ข้อพึงระวังคือ อารมณ์นะค่ะ ซึ่งอากาศร้อนจัดมีผลต่ออารมณ์ หงุดหงิด และหดหู่ (SAD-Seasonal Affective Disorder) จากสถิติผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น ลองออกไปเดินเล่นช่วงบ่ายแก่ หรือช่วงที่คนไม่มาก สิ่งสำคัญ คือ พยายามกระฉับกระเฉงเข้าไว้

เมื่อรู้สึกผิวแสบร้อนจากการโดนแดดเป็นเวลานาน แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ทานยาแอสไพริน เพื่อลดอาการเจ็บปวด แล้วลองแช่ตัวในอ่างน้ำที่มีอุณหภูมิร่างกาย โดยใส่ออยล์ สำหรับแช่น้ำ จากนั้น บำรุงผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ หรืออาฟเตอร์ซันเจล และหลีกเลี่ยงแดดในวันถัดไป หรือลองทำสเปรย์บรรเทาผิวไหม้เกรียม อย่างง่าย ๆ คือ น้ำกรองบริสุทธิ์ 2 ออนซ์ ใส่เอสเซ็นเชียลออยล์ กลิ่นลาเวนเดอร์ 9 หยด กลิ่นเปปเปอร์มินต์ 2 หยด และสเปียร์มินต์ 1 หยด ผสมรวมกันแล้วใส่ในกระบอกฉีด สำหรับพกติดตัว


ข้อพึงระวัง คือ หากเราต้องออกไปเผชิญอากาศร้อนภายนอก ควรใช้เครื่องสำอางเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด และทาครีมกันแดดเป็นกิจวัตรประจำวัน และหากมีผิวหน้ามัน ปัดทับด้วย บรอนเซอร์หรือแป้งจะช่วยลดความมันได้ค่ะ  และควรใส่หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดดด้วยนะค่ะ 

นวพร เอี่ยมธีระกุล (นู๋กบ)
Website : http://yanincosmeticbangkok.com
สอบถามครีมกันแดดเพิ่มเติม 0816518088

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำคัญอย่างไร

ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำคัญอย่างไร

ตู้ยาสามัญประจำบ้านหรือคลังโอสถขนาดย่อมที่ทุกครัวเรือนควรมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ยามป่วยไข้ หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออก ซึ่งเพื่อน ๆ ควรรู้วิธีการจัดการตู้ยา และจัดระเบียบตู้ยาอย่างเหมาะสม หากจำเป็นต้องใช้งานจะได้สะดวกปลอดภัย

  1. คือ ตำแหน่งที่ตั้งตู้ยา ต้องมีอุณหภูมิพอเหมาะ (อุณหภูมิห้อง 25-30 องศา) แสงแดดส่องไม่ถึง ไม่ร้อนหรือชื้น ไม่วางในห้องน้ำและห้องครัว เพื่อป้องกันยาเสื่อมคุณภาพ ที่สำคัญต้องจัดวางให้สูงเกินกว่าที่เด็กจะเอื้อมหยิบถึง
  2. นำยาหรือใช้ยาที่มีฉลากระบุรายละเอียดชัดเจนเท่านั้น เช่น ชื่อ ขนาด วัน เดือน ปี ที่ผลิต และวันหมดอายุ คำเตือน และคำสั่งในการใช้ เช่น ห้ามรับประทาน หรือยาใช้ภายนอก
  3. การจัดวางภายในตู้ยา ควรแยกประเภทของยาให้ชัดเจน เช่น ยารับประทาน ยาทา โดยไม่วางปะปนกันเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการหยิบใช้ ส่วนยาชนิดเดียวกันควรวางที่หมดอายุเร็วกว่าไว้ด้านนอกเพื่อหยิบใช้ก่อน ยาที่หมดอายุช้ากว่า
  4. หมั่นทำความสะอาดตู้ยาให้มีสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตัวยาหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะดูวันหมดอายุ กรณีที่ยาหมดอายุแล้วต้องทิ้งทันที ควรเช็คยาหมดอายุ อายุเดือนโดยอาจกำหนดให้วันที่ 1 ของเดือนเป็นวันตรวจเช็ค

นอกจากนี้ ในบ้านเราอาจมีอุปกรณ์การแพทย์ที่สามารถใช้เองได้ที่บ้าน อาทิเช่น เครื่องวัดความดัน ปรอทวัดไข้ดิจิตอลแบบธรรมดา หรือแบบอินฟาเรส เครื่องชั่งน้ำหนัก เป็นต้น

สำหรับวิธีการสังเกตยาหมดอายุหรือเสื่อมคุณภาพ จะมีลักษณะที่พิจารณาได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • โดยเฉพาะ “ยาเม็ด” นั้น เม็ดยาจะแตกร่วน สีซีดจางลง หรือสีเปลี่ยน
  • “ยาเม็ดเคลือบ” จะมีลักษณะเยิ้ม เหนียว ส่งกลิ่นไม่ประสงค์ 
  • “ยาเม็ดแคปซูล” แคปซูลจะบวม พองตัว ติดกัน หรืออาจมีราขึ้นบนเปลือกแคปซูล
  • และ “ยาน้ำแขวนตะกอน” อาทิ ยาลดกรด ยาคาลาไมน์ จะจับกันเป็นก้อน นอนก้น แม้เขย่าแรง ๆ ก็ไม่กระจายตัว 
  • ขณะที่ “ยาน้ำเชื่อม” เกิดตะกอน มีสีและกลิ่นที่เปลี่ยน 
  • สุดท้าย “ยาครีม” จะสังเกตเห็นเนื้อครีมเปลี่ยนสีและมีกลิ่นเหม็น วิธีดูแลตู้ยาสามัญประจำบ้านง่าย ๆ แค่นี้ หวังว่า เพื่อน ๆ คงจะไม่มองข้ามนะค่ะ
นู๋กบจ๊ะ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

พัฒนาการครีมกันแดด

พัฒนาการครีมกันแดด

ผิวพรรณเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่สังเกตได้ง่าย และสามารถทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็นโดยเฉพาะผิวหน้าส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีการดูแลผิวพรรณของตัวเองมากขึ้น ทำให้เครื่องสำอางมีบทบาทต่อการปกป้องดูแลผิวพรรณ และช่วยเสริมสร้างความงามให้แก่มนุษย์

ในสภาวะปัจจุบัน สภาพแวดล้อม ภูมิอากาศได้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทำให้อากาศร้อน และมีรังสียูวีเพิ่มมากขึ้น และรังสียูวียังทำให้ผิวหมองคล้ำจากแดดหน้าหนาวที่รุนแรง ไม่ต่างจากหน้าร้อน ส่งผลกระทบต่อสภาพผิวพรรณของผู้คนในปัจจุบันเป็นอันมาก ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาใช้ครีมกันแดดกันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยให้ผิวมีสภาพที่ดีเหมาะแก่สภาพอากาศ

ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าจึงแบ่งออกเป็นหลายแบบ เพื่อให้เหมาะกับความหลายหลายต่อความต้องการของผู้บริโภค ส่วนประกอบของครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ก็คือ ในเนื้อโลชั่นต้องมีสารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมหลักเพื่อให้ได้ความสวยครบสูตรจากธรรมชาติ ทำให้สามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้มาก รวมถึงถ้าในตัวครีมกันแดดที่มีสารสกัดที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยแล้วล่ะก๊ เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คนไทยได้ดีมาก เพราะคนไทยส่วนใหญ่อยากมีสุขภาพผิวหน้าดี และต้องการมีผิวหน้าที่ขาวใส เนียนสวย ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

ครีมกันแดดมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวของคนไทย ครีมกันแดดที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะพบหลากหลายมากมายจนผู้บริโภคเลือกซื้อไม่ถูก เฉพาะชนิดที่บำรุงผิวหน้ามีทั้งสารป้องกันรังสียูวีต่าง ๆ ที่มี เอสพีเอฟ ค่าของการป้องกันรังสียูวีที่ต่างกัน มากน้อยแล้วแต่ชนิดและผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน ผิวหนังตามลำตัวของคนเราจะมีความหนากว่าผิวหน้ามากมาย ทำให้มีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมและไม่แพ้ง่ายต่อสารเคมี ดังนั้น องค์ประกอบของครีมกันแดดที่ใช้สำหรับผิวกายโดยทั่วไปจะมีราคาถูกกว่าครีมกันแดดที่ใช้สำหรับผิวหน้า ในทางตรงกันข้าม สารเคมีทุกชนิดที่จะถูกคัดเลือกมาเป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดจะต้องผ่านขบวนการทดสอบว่า ไม่แพ้ง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่ องค์ประกอบหลายชนิดที่ใช้สำหรับป้องกันแสงแดดสำหรับผิวกายจะไม่สามารถใช้ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวหน้าได้เลย จึงเป็นเหตุให้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าจึงมีราคาแพง

นวพร เอี่ยมธีระกุล

สอบถามเพิ่มเติม 0816518088