วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สารสกัดจากว่านหางจระเข้


สารสกัดจากว่านหางจระเข้

ปัจจุบันโลกกำลังผจญกับสภาวะโลกร้อน ทำให้เราต้องเผชิญกับแสงแดดมากขึ้น ซึ่งแสงแดดนี้คือต้นเหตุของปัญหาต่าง ๆ มากมาย อาทิ เป็นต้นสายปลายเหตุของการไหม้บนผิวหนัง การเกิดริ้วรอยก่อนวัย ตลอดจนเป็นต้นสายปลายเหตุของมะเร็งผิวหนัง เพราะว่าตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวมา เป็น รังสี ultraviolet (UV) ที่มากับแสงแดดนั่นเอง รังสี UV แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ UVA , UVB และ UVC แต่ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเซลล์ผิวหนังก็คือ รังสี UVA และ UVB เราจึงควรจะมีการป้องกันผิวจากรังสีดังกล่าว

เพราะทางเลือกที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ คือ ครีมกันแดดซึ่งมีองค์ประกอบหลัก คือ สารกันแดด ซึ่งสารกันแดดแยกออกได้เป็น 3 ประเภท ตามกลไกการทำงานดังนี้
  1. สารกันแดดแบบกายภาพ (Physical blockers) ทำหน้าที่สะท้อนหรือหักเหรังสี UV ได้แก่ titanium dioxide (TiO2) และ zinc oxide (ZnO)
  2. สารกันแดดแบบเคมี (Chemical absorbers) ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UV ให้มีความเข้มน้อยลงเมื่อผ่านลงสู่ผิวหนัง ได้แก่ benzophenhone-3 (Oxybenzone), butylmethoxydlbenzoylmethane (Avobenzone)
  3. Hybrid (Organic particulates) สารกลุ่มนี้ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นสารกันแดดที่ทำหน้าที่สะท้อนและดูดซับรังสี UV ได้ทั้งสองอย่างในตัวเอง ได้แก่ Bis-BenzotriazolylTetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb® M


ปัจจุบันพบว่า แนวโน้มของการใช้สารเคมีลดลง โดยคนส่วนใหญ่หันไปให้ความสนใจกับสารธรรมชาติมากขึ้น จึงมีการคิดค้นสารกันแดดจากธรรมชาติ เพราะส่วนมากมักได้จากพืช ตัวอย่างเช่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว สารสกัดจากชะเอมเทศ สารสกัดจากอบเชย สารสกัดจากทับทิม สารสกัดจากขมิ้น สารสกัดต้นหม่อน และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ จากการศึกษา พบว่า สารสกัดเหล่านี้ นอกจากนี้จักช่วยป้องกันรังสี UV ได้แล้ว ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ อีก อาทิเช่น antioxidant (สารต้านอนุมูลอิสระ), anti-aging (การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ) และ anti-inflammation (ต้านการอักเสบ)

Aloe vera สารสกัดว่านหางจระเข้ จากการศึกษาวิจัย พบว่า ส่วน aloe gel โดยสารที่พบได้ใน aloe gel เป็นสารจำพวก polysaccharides (สารพอลิแซ็กคาไรด์) , glycoproteins (สารไกลโคโปรตีน) , anthraquinone (สารแอนทราควิโนน) และยังมีเอนไซม์บางประเภทที่มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ

จากการศึกษาทางคลินิกพบว่า aloe gel มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาอาการไหม้ ด้วยเหตุที่ ความร้อนและรังสี โดยการทดสอบในหนูทดลอง พบว่า aloe gel สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และลดการเกิดกระบวนการอักเสบได้ เพราะว่าจะทำให้กลไกการเกิดการอักเสบช้าลง และเพิ่มระยะเวลาในการปรับสภาพเซลล์ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าหลังจากโดนรังสี และความร้อนเผาไหม้ สำหรับผลในการป้องกันการทำลายเซลล์ผิวจากรังสี พบว่า aloe gel สามารถป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการทำลายจากรังสีแกมม่า รังสี x-ray และรังสี UVB ในหนูทดลอง โดย aloe gel สามารถลดการเกิดกระบวนการดูดซับรังสี UVB ของเซลล์ในระบบภูมิต้านทานที่ผิวหนังในผิวหนังชั้นหนังกำพร้าได้ จึงส่งผลทำให้เกิดการหลั่งภูมิคุ้มกัน และทำให้อาการแพ้ลดลง นอกจากนี้ aloe gel ยังสามารถจำกัดอนุมูลอิสระ (Scavenge free radicals) ได้อีกด้วย

จากการศึกษา ยังพบว่า ความเข้มข้นของ aloe gel ในสูตรต้นตำรับที่เหมาะสมในการรักษาแผลไหม้ เนื่องจาก ถูกความร้อนและรังสีนั้น ควรมีความเข้มข้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของตำรับ และยังพบว่า aloe vera ยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดการไหม้ เพราะว่าแสงแดดได้ โดยสามารถช่วยดูดซับรังสีในช่วงความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่มีผลต่อกระบวนการ melanogenesis หรือกระบวนการสร้างเม็ดสีที่ส่งผลทำให้สีผิวคล้ำขึ้นได้


จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า สารสกัดจากว่านหางจระเข้หมายถึงสารจากธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้เป็นสารกันแดดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดด เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดอาการระคายเคือง ช่วยป้องกันการเกิดการไหม้จากแสงแดด 

นวพร เอี่ยมธีระกุล 
สอบถามเพิ่มเติม 0816518088 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น