คุณมีแนวโน้ม “ขึ้นคาน” รึเปล่า
ถ้าบอกว่า “แก่” ก็ดูร้ายแรงแล้วสำหรับสาว ๆ
แต่นอกจากเรื่องนี้ ยังมีสิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้น และเชื่อแน่ว่า
ไม่ว่าสาวคนไหนเป็นต้องร้องกรี๊ดทุกราย ถ้าจะมากล่าวหากันว่า “ขึ้นคาน” และคงเป็นเรื่องที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเจอ
เพราะใคร ๆ ก็อยากมีความฝันที่จะแต่งงานมีผู้ชายดี ๆ
สักคนมารักและดูแลกันตลอดชีวิตใช่มั๊ยล่ะ
แต่ว่า ตอนนี้...สาว ๆ ลองมาดูตัวเองก่อนดีกว่ามั๊ยว่า
ผู้หญิงอย่างเรามีสิทธิ์เข้าข่ายที่จะขึ้นคานทองกับเขาบ้างหรือเปล่า ถ้าหันมาเช็คดูตัวเองสักนิด
เผื่อคิดเปลี่ยนชีวิตทันนะจ๊ะ!!
อันดับแรกเลย “ไม่มีเสน่ห์เลยสักอย่าง”
ถ้าไม่อยากขึ้นคานแล้วล่ะก็เกิดมาเป็นผู้หญิงต้องทำตัวให้มีเสน่ห์เข้าไว้
เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะไม่ชอบควงผู้หญิงที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องไปแต่งตัวโป๊ หรือโชว์นู้นแว๊บนั่น แต่นั่นหมายถึง
เรื่องนิสัยใจคอ หรือความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เราควรดึงออกมาให้ผู้ชายเห็น
เช่น เป็นคนสวย เป็นคนคุยเก่ง เป็นคนทำงานเก่ง เป็นคนตลก เป็นคนชอบเล่นกีฬา
ชอบดูบอลแบบผู้ชาย ก็ดูทะมัดทะเมงดีไม่น้อย ฯลฯ ใครมีข้อไหนก็งัดของดีออกมาโชว์บ้าง
เพื่อจะได้เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคตได้ อย่างน้อย ๆ
ถ้าคุณไม่มีความสามารถอะไรเลยก็ควรพัฒนาบุคลิกภาพเรื่องความสวยงามอยู่เสมอ
และถ้าเป็นคนสวยก็ยิ่งดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
อย่างที่สองรองลองมา “ก้าวร้าวขี้บ่นเอาแต่ใจ”
ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นเรื่องจริงที่ว่า ผู้หญิงสมัยนี้จะเก่งทันสมัย
และฉลาดรอบรู้ บางทีก็เก่งกว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำ ซึ่งผู้หญิงส่วนมากที่เป็นแบบนี้ก็มักจะคิดว่าตัวเองนั้นเลือกได้
ไม่ต้องแคร์ใคร ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องดีถ้าคุณมีสิ่งนี้อยู่ในตัว
แต่จะดีมากกว่ามั้ยถ้าคุณนำความเก่งไปใช้ประโยชน์
โดยไม่เอาความรู้ความสามารถที่คุณมีไปข่มผู้ชาย เช่น ขี้บ่น จุกจิก เอาแต่ใจ
แถมยังชอบชี้นิ้วบงการเขาให้ทำตามคำสั่งเราทุกอย่าง
ควบคุมพฤติกรรมการไปการกลับของเขาทุกระเบียบนิ้ว ลองเช็คตัวเองสิว่า
เราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เพราะถ้าตอบว่า ใช่
ก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะมาอยู่ใต้การปกครองของคุณตลอดเวลาหรอก ถึงแม้ว่า
เพศชายจะเป็นเพศที่แข็งแรงก็เถอะ แต่ความจริงแล้วเขาก็อยากควงสาว ๆ
ที่มีอารมณ์หวานบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ อาจไม่ต้องหวานค่ะ ขา มากมาย
แต่แค่รู้จักให้เกียรติเขา รู้จักเอาใจบ้างก็พอ อย่างน้อย ๆ
เวลาเขาพาไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะได้ภูมิใจไงล่ะ
อันดับต่อมา ก็คือ “หวังผลประโยชน์อย่างเดียว”
แบบที่เรียกว่า ถ้าเธอไม่รวย ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ก็อย่ามาจีบกันให้เสียเวลาเลย! สาว ๆ ที่คิดแบบนี้ร้อยทั้งร้อยไม่ขึ้นคานก็แก่เกินที่จะได้แต่งงานค่ะ
เอาเป็นว่าถ้าเจอผู้ชายที่เขานิสัยดี เรื่องอื่นๆ
ก็น่าจะพัฒนาและเดินไปพร้อม ๆ กันได้
ต่างคนก็ช่วยกันทำมาหากินมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน มีน้อยใช้น้อย
มีมากก็แบ่งไว้ให้รางวัลแก่เขาบ้าง การใช้ชีวิตคู่แบบนี้จะทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกันนะจ๊ะ
และถ้าคุณเป็นคน “ไม่กล้าแสดงออกทางความคิดเลย”
ต่อให้คุณเป็นคนสวยเพอร์เฟคแค่ไหน
แต่ถ้าจะเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ตลอดเวลาถามคำตอบคำ ถามว่า อยากกินอะไร
ตอบได้แค่ว่า “อะไรก็ได้” แบบนี้เขาเรียกว่า “น่าเบื่อ” เพราะคุณไม่กล้าคิดไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยสักอย่าง
เอาแต่ตามตาม และตาม ก็ดูออกจะน่ารำคาญไปนะ จริงอยู่ว่าคุณต้องให้เกียรติผู้ชาย
ให้เขาเป็นผู้นำบ้าง แต่การเสนอความคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ
เสนอไอเดียกิจกรรมแปลกใหม่บ้าง ก็จะทำให้คุณดูน่าสนใจ ทำให้ผู้ชายไม่เบื่อ และดูเป็นคนเฉลียวฉลาด
แบบนี้สิค่อยน่าจะคบหาต่อ!
นอกจาก เช็คตัวเองแล้ว สาว ๆ
ก็ไม่ควรลืมที่จะปรับเปลี่ยนบุคลิกและมุมมองเรื่องความรักให้ดูดีขึ้นด้วย อาจมีคติ
หรือยึดมั่นในความเชื่อบางอย่าง เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนความรัก เช่น “ความรัก
คือ การเสียสละ” “ความรัก คือ การให้” “ความรัก คือการที่เราได้ทำอะไรสนุก ๆ
ด้วยกัน” ฯลฯ
จากนั้น คุณสาว ๆ ก็จำให้ขึ้นใจ
และปฏิบัติตามให้ได้ ถ้าปรับปรุงทั้งบุคลิกทางกาย และทางใจพร้อมกันแล้ว
ก็ไม่วายที่จะมีหนุ่ม ๆ มารุมล้อมดอมดมคุณอย่างแน่นอนค่ะ
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น