วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

กินอย่างชาญฉลาด ช่วยชะลอวัยก็ได้ ต้านความแก่ก็ดี

กินอย่างชาญฉลาด ช่วยชะลอวัยก็ได้ ต้านความแก่ก็ดี

เคยมีงานวิจัยออกมาบอกว่า ในยุคปัจจุบัน ค่าเฉลี่ยอายุชายไทยอยู่ที่ 68 ปี ในขณะที่ผู้หญิงเรามีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 72 ปี และมีแนวโน้มว่า คนไทยจะมีอายุยืนถึง 120 ปีกันเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ได้การันตีว่า จะอายุยืนถึง 120 ปีกันเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ได้การันตรีว่า จะอายุยืนถึงขนาดนั้นทุกคนหรอกนะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่มาจากการดูแลเอาใจใส่ตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่า การดูแลตัวเอง นอกจากเรื่องออกกำลังกายแล้ว เรื่องอาหารการกินก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยค่ะ

จุดสำคัญของการรับประทานให้ถูกสุขลักษณะ คือ รับประทานอาหารในปริมาณที่ไม่มาก และไม่น้อยเกินไป โดยคนปกตินั้น ควรบริโภคอาหารในปริมาณ 1,400-1,500 แคลอรี่ต่อ 1 วัน และหากเป็นไปได้ในอาหารแต่ละจาน จะต้องมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ นอกจากนี้แล้ว การรับประทานอาหารไฟเบอร์เป็นประจำก็สามารถช่วยยืดอายุของเราไปได้อีกนานเช่นกัน

ในวันนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องราวการรับประทานไฟเบอร์ที่แสนมีประโยชน์ และช่วยให้คุณมีอายุที่ยืนยาวกันนะค่ะ

“ไฟเบอร์” เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์หลักในเรื่องระบบเผาผลาญ จึงมักนิยมถูกนำมาใช้ในกระบวนการลดน้ำหนักกันอย่างแพร่หลาย แต่นอกจากไฟเบอร์จะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว มันยังเป็นสารอาหารที่ถูกนำมาเป็นส่วนผสมหลักของการผลิตยาอายุวัฒนะอีกด้วย เนื่องจาก มีผลการวิจัยว่า การรับประทานไฟเบอร์เป็นประจำนั้น จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้อีก เพียงแต่ในปัจจุบันหนุ่มสาวบ้านเรามักทานอาหารกันแบบไม่ถูกสุขลักษณะกันเยอะ ทำให้ได้รับไฟเบอร์ในร่างกายไม่เพียงพอ เกิดโรคภัยและเจ็บป่วยกันมากขึ้น

ปริมาณไฟเบอร์ที่หนุ่ม ๆ ควรได้รับในแต่ละวันนั้นอยู่ที่ 35-40 กรัม ในขณะที่สาว ๆ ควรรับแค่ 25 กรัมเท่านั้น ก็จะช่วยให้เราสุขภาพดีมีหุ่นเพรียวบางไปด้วย คำถามต่อไปที่หลายคนชอบถามกันคือ แล้วอาหารประเภทไหนบ้างที่มีไฟเบอร์? หากลองสักเกตให้ดีเราจะพบเลยว่า มีอาหารอยู่หลากหลายชนิดมากมายที่มีไฟเบอร์นี่ประกอบอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมด สามารถจำแนกออกมาได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
  1. ผลไม้ ได้แก่ แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะละกอ ส้ม แคนตาลูป ฝรั่ง มะม่วง กีวี กล้วย รวมทั้งเบอรี่บางชนิด เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่
  2. ผัก ได้แก่ คะน้า บร็อกโคลี่ แครอท ผิวมะเขือเทศ ผิวมันฝรั่ง ผักโขม และข้าวโพด
  3. ธัญพืช ได้แก่ ข้าวโอ๊ต คอร์นเฟล็ก ขนมปังโฮลวีท ขนมปังขาว ข้าวกล้อง
  4. ถั่ว ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วพู อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เฮเซลนัต พิสตาชิโอ


อาหารที่กล่าวมานี้ หลายอย่างคุณสาว ๆ สามารถนำมารับประทานเปล่า ๆ ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลามาปรุงอาหาร อาจจะแอบเก็บใส่กระเป๋าพกไว้ทานเล่นเวลาหิว ก็เป็นของว่างระหว่างมื้อได้ดี เพราะไม่ทำให้อ้วน

นวพร เอี่ยมธีระกุล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น